1 ปีปฏิบัติการทวงคืนผืนป่าวังน้ำเขียว-ทับลาน
อุทยานฯจับแล้วรีสอร์ต-บ้านพักรุกป่า 417 คดี เตรียมกำลัง 5,000
นายรื้ออีก 9 รีสอร์ตใหญ่เร็วๆ นี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เปิดยุทธการทวงคืนผืนป่า
โดยเริ่มในพื้นที่อุทยานแห่งชาติทับลาน อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมาและ
อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีการบุกรุกก่อสร้างรีสอร์ต
และบ้านพักตากอากาศมากที่สุดในประเทศ โดยจะครบรอบ 1
ปีการเปิดยุทธการในวันที่ 26 ก.ค. นี้ ซึ่งในช่วงที่ผ่านมากรมอุทยานฯ
ได้ดำเนินการรื้อถอนบ้านพัก รีสอร์ตที่บุกรุกอุทยานฯ ทับลาน
ซึ่งศาลมีคำสั่งให้รื้อถอนไปแล้วจำนวนหลายราย
และมีการตั้งชุดเฉพาะกิจเพื่อปราบปรามการบุกรุกพื้นที่อุทยานฯ ทับลาน
(ชุดเคลื่อนที่เร็ว) จับกุมดำเนินคดีรีสอร์ต
บ้านพักตากอากาศที่บุกรุกพื้นที่ทับลานเพิ่มเติมอีกเป็นจำนวนมากนั้น
วันนี้ ( 24 ก.ค.) นายเทวินทร์ มีทรัพย์ หัวหน้าอุทยานฯ ทับลาน เปิดเผยว่า ผลการเปิดปฏิบัติการทวงคืนผืนป่าในพื้นที่อุทยานฯ ทับลานในช่วง 1 ปี ที่ผ่านมา มีคดีรีสอร์ต บ้านพักตากอากาศ บุกรุกอุทยานฯ ทับลานเดิม ก่อนที่ตนจะเข้ามารับตำแหน่งที่ผ่านการพิจารณาของศาลยุติธรรมแล้วจำนวน 49 แห่ง ซึ่งในจำนวนนี้ได้มีการรื้อถอนไปแล้ว 8 แห่ง อยู่ระหว่างรอการรื้อถอนอีก 19 แห่ง ส่วนที่เหลือเจ้าของและผู้ประกอบการได้ยื่นเรื่องต่อศาลปกครองและขณะนี้ กำลังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของศาลปกครอง นอกจากนั้นในส่วนที่นายดำรงค์ พิเดช อธิบดีกรมอุทยานฯ มีคำสั่งตั้งชุดเคลื่อนที่เร็วขึ้นมาจับกุมดำเนินคดีกับรีสอร์ตและบ้านพัก ที่บุกรุกพื้นที่ รวมทั้งเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ทับลานดำเนินการเข้าจับกุมเองนั้น ล่าสุดมีจำนวนทั้งสิ้น 417 คดี เนื้อที่เกือบ 5,000 ไร่ ซึ่งทั้งหมดได้ทยอยส่งสำนวนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ดำเนินการสืบสวน สอบสวน เพื่อเอาผิดกับคนที่บุกรุกพื้นที่อุทยานฯ ต่อไป และหากการดำเนินการเสร็จสิ้นอุทยานฯทับลาน จะเป็นพื้นที่แรกที่ไม่มีรีสอร์ต บ้านพักตากอากาศอยู่ในพื้นที่
หัวหน้าอุทยานฯ ทับลาน กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ที่ผ่านมาทางอุทยานฯ ทับลานได้เสนอให้มีการรื้อถอนรีสอร์ต บ้านพักตากอากาศที่ศาลยุติธรรมพิจารณาคดีเสร็จสิ้นแล้ว และไม่มีการร้องศาลปกครอง โดยกรมอุทยานฯ พิจารณาให้มีการรื้อถอน 8-9 แห่ง คาดว่าจะดำเนินการภายในช่วงต้นเดือน ส.ค.นี้ อย่างไรก็ตามในการวิ่งเต้นเพื่อขอให้มีการชะลอการรื้อถอนนั้น เชื่อว่าก็คงมีอยู่ แต่ตอนนี้ไม่มีใครมาวิ่งเต้นกับตน เพราะตนปฏิเสธไปแล้วว่าเป็นอำนาจของอธิบดี และนายดำรงก็ให้นโยบายมาแล้วว่าต้องดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมายทั้งหมด ไม่มีละเว้น
แหล่งข่าวจากกรมอุทยานฯ เปิดเผย ว่า สำหรับรีสอร์ตและบ้านพักตากอากาศที่กรมอุทยานฯ เตรียมดำเนินการรื้อถอนในเร็วๆ นี้มีทั้งหมด 9 แห่ง อยู่ในพื้นที่ อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา 1 แห่ง และ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี 8 แห่ง เนื้อที่รวมกว่า 1,700 ไร่ โดยหนึ่งในนั้นเป็นรีสอร์ตขนาดใหญ่มูลค่าการลงทุนหลายร้อยล้านบาท ส่วนที่เหลือเป็นบ้านพักตากอากาศ และที่พักชั่วคราวของคนงาน ซึ่งมีเจ้าหน้าที่รัฐที่มีอิทธิพลในพื้นที่เป็นเจ้าของด้วย โดยกรมอุทยานฯ ได้ระดมเครื่องมือและอุปกรณ์หนักจากทั่วประเทศสำหรับการรื้อถอนแล้ว รวมทั้งเตรียมเรียกกำลังเจ้าหน้าที่จำนวน 4,000-5,000 นายไว้สำหรับปฏิบัติการครั้งนี้ เพราะคาดว่าผู้มีอิทธิพลจะระดมกลุ่มมวลชนออกมาต้านจำนวนมาก ซึ่งกรมอุทยานฯ เคยมีบทเรียนแล้วจากปฏิบัติการทวงคืนผืนป่าในพื้นที่อุทยานฯ เขาหลวง จ.นครศรีธรรมราช เมื่อช่วงต้นเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา
วันนี้ ( 24 ก.ค.) นายเทวินทร์ มีทรัพย์ หัวหน้าอุทยานฯ ทับลาน เปิดเผยว่า ผลการเปิดปฏิบัติการทวงคืนผืนป่าในพื้นที่อุทยานฯ ทับลานในช่วง 1 ปี ที่ผ่านมา มีคดีรีสอร์ต บ้านพักตากอากาศ บุกรุกอุทยานฯ ทับลานเดิม ก่อนที่ตนจะเข้ามารับตำแหน่งที่ผ่านการพิจารณาของศาลยุติธรรมแล้วจำนวน 49 แห่ง ซึ่งในจำนวนนี้ได้มีการรื้อถอนไปแล้ว 8 แห่ง อยู่ระหว่างรอการรื้อถอนอีก 19 แห่ง ส่วนที่เหลือเจ้าของและผู้ประกอบการได้ยื่นเรื่องต่อศาลปกครองและขณะนี้ กำลังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของศาลปกครอง นอกจากนั้นในส่วนที่นายดำรงค์ พิเดช อธิบดีกรมอุทยานฯ มีคำสั่งตั้งชุดเคลื่อนที่เร็วขึ้นมาจับกุมดำเนินคดีกับรีสอร์ตและบ้านพัก ที่บุกรุกพื้นที่ รวมทั้งเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ทับลานดำเนินการเข้าจับกุมเองนั้น ล่าสุดมีจำนวนทั้งสิ้น 417 คดี เนื้อที่เกือบ 5,000 ไร่ ซึ่งทั้งหมดได้ทยอยส่งสำนวนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ดำเนินการสืบสวน สอบสวน เพื่อเอาผิดกับคนที่บุกรุกพื้นที่อุทยานฯ ต่อไป และหากการดำเนินการเสร็จสิ้นอุทยานฯทับลาน จะเป็นพื้นที่แรกที่ไม่มีรีสอร์ต บ้านพักตากอากาศอยู่ในพื้นที่
หัวหน้าอุทยานฯ ทับลาน กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ที่ผ่านมาทางอุทยานฯ ทับลานได้เสนอให้มีการรื้อถอนรีสอร์ต บ้านพักตากอากาศที่ศาลยุติธรรมพิจารณาคดีเสร็จสิ้นแล้ว และไม่มีการร้องศาลปกครอง โดยกรมอุทยานฯ พิจารณาให้มีการรื้อถอน 8-9 แห่ง คาดว่าจะดำเนินการภายในช่วงต้นเดือน ส.ค.นี้ อย่างไรก็ตามในการวิ่งเต้นเพื่อขอให้มีการชะลอการรื้อถอนนั้น เชื่อว่าก็คงมีอยู่ แต่ตอนนี้ไม่มีใครมาวิ่งเต้นกับตน เพราะตนปฏิเสธไปแล้วว่าเป็นอำนาจของอธิบดี และนายดำรงก็ให้นโยบายมาแล้วว่าต้องดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมายทั้งหมด ไม่มีละเว้น
แหล่งข่าวจากกรมอุทยานฯ เปิดเผย ว่า สำหรับรีสอร์ตและบ้านพักตากอากาศที่กรมอุทยานฯ เตรียมดำเนินการรื้อถอนในเร็วๆ นี้มีทั้งหมด 9 แห่ง อยู่ในพื้นที่ อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา 1 แห่ง และ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี 8 แห่ง เนื้อที่รวมกว่า 1,700 ไร่ โดยหนึ่งในนั้นเป็นรีสอร์ตขนาดใหญ่มูลค่าการลงทุนหลายร้อยล้านบาท ส่วนที่เหลือเป็นบ้านพักตากอากาศ และที่พักชั่วคราวของคนงาน ซึ่งมีเจ้าหน้าที่รัฐที่มีอิทธิพลในพื้นที่เป็นเจ้าของด้วย โดยกรมอุทยานฯ ได้ระดมเครื่องมือและอุปกรณ์หนักจากทั่วประเทศสำหรับการรื้อถอนแล้ว รวมทั้งเตรียมเรียกกำลังเจ้าหน้าที่จำนวน 4,000-5,000 นายไว้สำหรับปฏิบัติการครั้งนี้ เพราะคาดว่าผู้มีอิทธิพลจะระดมกลุ่มมวลชนออกมาต้านจำนวนมาก ซึ่งกรมอุทยานฯ เคยมีบทเรียนแล้วจากปฏิบัติการทวงคืนผืนป่าในพื้นที่อุทยานฯ เขาหลวง จ.นครศรีธรรมราช เมื่อช่วงต้นเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา

ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น