"หมอพรเทพ” แจงผลสอบสวนโรคไม่รู้ว่าเด็ก 2 ขวบติดเชื้อจากใคร

หมอพรเทพ”  บอกการสอบสวนโรคไม่รู้ว่าเด็ก 2 ขวบติดเชื้อจากใคร เตือนเด็กเล็กมีโรคประจำตัวกลุ่มเสี่ยงติดเชื้ออาการรุนแรง ย้ำมีอีก 5 รายอาการหนักอยู่ในข่ายต้องสงสัย

วันนี้ (24 ก.ค.) นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีเด็กหญิงวัย 2 ขวบครึ่งเสียชีวิตจากเชื้อเอนเทอโรไวรัส 71 สายพันธุ์บี 5 ว่า จากการสืบสวนโรคพบว่า เด็กคนนี้มีประวัติเป็นหืดหอบ ตอนมาถึง รพ.นพรัตนราชธานีมีอาการหนักแล้วต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ หมอวินิจฉัยว่าสมองอักเสบ เพราะเด็กมีอาการซึม ชัก เกร็ง นอกจากนี้ยังมีภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ ตอนแรกผลการตรวจอุจจาระและน้ำไขสันหลังให้ผลเป็นลบ อีกทั้งคนไข้ไม่มีอาการโรคมือเท้าปาก แต่กระทรวงสาธารณสุขก็ไม่ได้ละความพยายามตรวจต่อจนเจอเชื้อเอนเทอโรไวรัสที่ ช่องคอ ซึ่งหากต้องการปกปิดก็คงไม่ตรวจหาเชื้อต่อ                

พธม.บุกสภา-ทำเนียบฯจี้ถอนกม.ปรองดอง

พธม.บุกสภา-ทำเนียบฯ จี้ "สมศักดิ์- ปู"ถอนร่าง พ.ร.บ.ปรองดองออกจากสภาฯ ขู่ถ้าดื้อเดินหน้าต่อเจอก่อม็อบแน่

วันนี้ ( 24 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 12.45 น.ที่รัฐสภา นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ได้เดินทางมายื่นหนังสือ ณ ห้องสารบัญ อาคารรัฐสภา 1 ถึงนายสมศักดิ์ เกรียติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา ให้ประสานงาน ส.ส.และผู้ที่เกี่ยวข้อง ถอนร่างพ.ร.บ.ว่าด้วยความปรองดองแห่งชาติ พ.ศ...ออกจากการประชุมสภาฯ ก่อนวันที่ 1 ส.ค. 2555 เพื่อยุติความขัดแย้งของคนในชาติและถือเป็นการสร้างความปรองดองอย่างแท้จริง เพราะตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาที่มีการนำเสนอพระราชบัญญัติดังกล่าว ก็ได้ประจักษ์แล้วว่าได้สร้างความแตกแยกให้แก่คนในชาติทั้งในสภาฯและนอกสภาฯ และยังรวมไปถึงพระราชบัญญัติดังกล่าว คือกฎหมายที่ลบล้างความผิดให้แก่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กำลังหลบหนีอาญาแผ่นดินอยู่ในขณะนี้ รวมไปถึงพวกพ้องของคนในรัฐบาล และผู้สนับสนุนรัฐบาลให้ไม่ต้องรับผิดตามกฎหมาย ถือเป็นการทำลายหลักนิติรัฐ และทำลายหลักการถ่วงดุลอำนาจ และสร้างให้กลุ่มบุคคลในฝ่ายรัฐบาลกลายเป็นอภิสิทธิ์ชนอยู่เหนือกฎหมาย และทันทีที่ปรากฎวาระการประชุมเพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยความปรองดองแห่งชาติในวันใด พธม.จะจัดให้มีการชุนนุมใหญ่ในทันที พร้อมเคลื่อนมวลชนไปในสถานที่ต่าง ๆ จนกว่าจะมีการถอนร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวออกจากการประชุมรัฐสภา

จากนั้น ตัวแทน พธม.ได้เดินทางไปยื่นหนังสือถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาล ผ่านนายสมพาส นิลพันธุ์ ผู้อำนวยการศูนย์บริการประชาชน สำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี  โดยนายปานเทพ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี เป็นส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และถือเป็นบุคคลสำคัญของพรรค เราจึงหวังว่าจะนายกฯช่วยผลักดันให้ช่วยผลักดันร่างฎหมายดังกล่าวออกจากวาระ การพิจารณาของสภา เพื่อสร้างความพอใจให้กับประชาชน

“เต้น”ฟันธง พธม.เคลื่อนไหวใหญ่หวังจ้องล้มรัฐบาลเพื่อไทย

“เต้น”ฟันธงเหตุผลแท้จริง พธม. เคลื่อนไหวใหญ่หวังจ้องล้มรัฐบาลเพื่อไทย แต่อ้างกฎหมายปรองดองบังหน้า ชี้ถ้าเปิดเกมรุกแบบไร้เหตุผล คงยากได้รับเสียงหนุนจากประชาชน

วันนี้ ( 24 ก.ค.) นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.เกษตรและสหกรณ์ แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ประกาศชุมนุมใหญ่หากรัฐบาลไม่ถอนร่าง พ.ร.บ.ปรองดองแห่งชาติ ก่อนเปิดสภาฯ ว่า  ถือเป็นเรื่องเดิมที่ฝ่ายตรงข้ามพยายามทำมาโดยตลอด คือเอาทุกประเด็นมาเป็นเงื่อนไขสร้างแรงเสียดทานให้รัฐบาล  ซึ่งเป้าหมายไม่ได้อยู่ที่ร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง หรือร่างกฎหมายฉบับใดฉบับหนึ่ง  แต่ฝ่ายตรงข้ามไม่ต้องการให้รัฐบาลพรรคเพื่อไทยอยู่บริหารประเทศต่อไป จึง อยากให้ประชาชนตั้งสติและมองให้ชัดว่าอะไรคือเนื้องานและอะไรคือเรื่องการ เมือง

เมื่อถามว่าเป็นห่วงว่าเหตุการณ์จะบานปลายอีกหรือไม่  นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ต้องพยายามดำเนินการทุกอย่างด้วยความระมัดระวัง และสื่อสารอธิบายข้อเท็จจริงให้ประชาชนทราบ ส่วนฝ่ายที่ต้องการให้เกิดการบานปลายหรือสับสนเขาก็ต้องพยายามทำทุกวิถีทาง แต่ถ้าเราคิดถึงบ้านเมืองและประชาชนเป็นหลักก็ไม่น่าจะมีปัญหา  ส่วนตัวมองว่าความเคลื่อนไหวของกลุ่ม พธม. เป็นการพยายามเร่งสถานการณ์ หาจังหวะลงมือซ้ำเพื่อให้รัฐบาลตกในสภาพตั้งรับตลอดเวลา แต่อย่าลืมว่าการเปิดเกมรุกถ้าไม่มาจากเหตุผลที่ชอบธรรมก็คงยากที่จะได้รับ การสนับสนุน   ซึ่งหากนายกรัฐมนตรียืนหยัดในการเดินหน้าตามนโยบายและการแก้ปัญหาต่างๆ ประชาชนก็จะให้การสนับสนุนต่อไป

ผู้สื่อข่าวถามว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่จะมีการทบทวนร่างกฎหมายฉบับดัง กล่าวเนื่องจากยังมีความค้างคาใจของหลายฝ่าย นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า อยู่ที่การพิจารณาของสภา แต่ส่วนตัวเห็นว่าไม่ว่าจะถอนหรือไม่ถอนร่างกฎหมายฉบับดังกล่าว ขบวนการจ้องล้มรัฐบาลก็ยังเดินหน้าอยู่ เพราะร่าง พ.ร.บ.ปรองดองไม่ใช่เงื่อนไขที่แท้จริงในการที่จะออกมาชุมนุมใหญ่  แต่เหตุผลที่แท้จริงคือไม่ต้องการให้พรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาลและอยู่ในอำนาจ ฝ่ายบริหาร ซึ่งเป็นขบวนการกลุ่มเดิม
   

“ก่อแก้ว”ข้องใจ “บิ๊กตู่” ป้อง “มาร์ค” ไม่มีความผิดหนีทหาร

“ก่อแก้ว”ข้องใจ “ประยุทธ์” ป้อง “มาร์ค” ไม่มีความผิดหนีทหาร งัดผลสอบกระทรวงกลาโหมปี 42 แย้ง ระบุ “อภิสิทธิ์” มีความผิดหลีกเลี่ยงเกณฑ์ทหาร จี้ รมว.กลาโหมรีบแจงข้อเท็จจริงให้สังคมหายแคลงใจ

วันนี้ (24 ก.ค.)ที่รัฐสภา นายก่อแก้ว พิกุลทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย แถลงกรณีการตรวจสอบนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์หนีการเกณฑ์ทหาร และใช้เอกสารปลอมในการสมัครเข้ารับราชการเป็นอาจารย์โรงเรียนนายร้อย จปร.ว่า อยากให้พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม มาแถลงข่าวให้สังคมทราบเพื่อให้หายแคลงใจ เพราะพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.ระบุว่า กรณีการเกณฑ์ทหารของนายอภิสิทธิ์จบไปแล้ว โดยนายอภิสิทธิ์ไม่มีความผิดนั้น แต่ตนมีข้อสงสัยว่า ผลการสอบสวนของคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง กระทรวงกลาโหม เมื่อวันที่ 8 มี.ค. 2542 ระบุว่า นายอภิสิทธิ์หลีกเลี่ยง ขัดขืนการไปตรวจเลือกและขาดการตรวจเลือก ซึ่งผิดมาตรา 27 และ 45 ตาม พ.ร.บ.รับราชการทหาร พ.ศ.2497 พร้อมกับมีการลงโทษเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในการรับนายอภิสิทธิ์เข้ารับ ราชการ และไม่นำนายอภิสิทธิ์มาดำเนินคดีฐานไม่ไปตรวจเลือกทหาร เมื่อผลสอบระบุเช่นนี้ นายอภิสิทธิ์ก็น่าจะมีความผิด อยากให้ รมว.กลาโหมนำผลการสอบสวน ปี 2542 มาชี้แจงให้สังคมทราบเพื่อให้หายคลางแคลงใจ ทั้งนี้ขอตั้งข้อสังเกตว่า การที่นายอภิสิทธิ์ไปเป็นอาจารย์แค่ปีเดียว แต่ใช้สิทธิลาราชการ 200 กว่าวัน แสดงว่ามีพฤติกรรมหลีกเลี่ยงการเกณฑ์ทหาร ดูแล้วเรื่องนี้นายอภิสิทธิ์ตอบคำถามสังคมลำบาก ถือเป็นกรรมเก่าที่ตามไล่ล่านายอภิสิทธิ์

“ก่อแก้ว”เชียร์ "ตู่"นั่งเก้าอี้มท.2

“ก่อแก้ว”เชียร์นายกฯปรับ ครม. อ้างรัฐมนตรีบางคนไม่กระตือรือร้น ป้องปรับ “ยงยุทธ” พ้น มท.1 พร้อมเปิดทางทวงโควตารมช.มหาดไทยให้ “จตุพร” ช่วยงาน “ยงยุทธ”

วันนี้ (24 ก.ค.) ที่รัฐสภา นายก่อแก้ว พิกุลทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี ( ครม.) ว่า เห็นด้วยว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ควรปรับครม. เพราะนายกฯทำงานหนัก แต่มีรัฐมนตรีบางคนไม่แอคทีฟ ทำงานนายกฯต้องเหนื่อย ไปแบกรับภาระเองทุกเรื่อง นายกฯคงทราบดีว่า ใครบ้างที่เป็นภาระ ควรปรับออก พรรคเพื่อไทยและรัฐบาลนี้มีประชาชนเป็นผนังให้พิง หากรัฐมนตรีคนใดไม่ตอบสนองความต้องการประชาชนก็ต้องปรับออก แต่สวนตัวเห็นว่า ไม่สมควรปรับนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ ออกจากตำแหน่ง รมว.มหาดไทย เพราะเป็นคนที่รู้เรื่องกระทรวงมหาดไทยดีที่สุด รมว.มหาดไทย ไม่มีใครเหมาะสมกับนายยงยุทธอีกแล้ว ถ้าเห็นว่า งานนายยงยุทธมากเกินไป ทำงานไม่ทัน ก็ควรหาคนมาเป็น รมช.มหาดไทยเพิ่มเติม เช่น นายภูมิธรรม เวชชยชัย รักษาการผอ.พรรคเพื่อไทย นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำคนเสื้อแดง จะดีกว่าการปรับนายยงยุทธออก เพราะในอดีตก็เคยมี รมช.มหาดไทย 4 คน แต่ปัจจุบันมีแค่ 2 คนเท่านั้น

อุทยานฯจับแล้วรีสอร์ต-บ้านพักรุกป่าวังน้ำเขียว-ทับลาน 417 คดี

1 ปีปฏิบัติการทวงคืนผืนป่าวังน้ำเขียว-ทับลาน อุทยานฯจับแล้วรีสอร์ต-บ้านพักรุกป่า 417 คดี เตรียมกำลัง 5,000 นายรื้ออีก 9 รีสอร์ตใหญ่เร็วๆ นี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เปิดยุทธการทวงคืนผืนป่า โดยเริ่มในพื้นที่อุทยานแห่งชาติทับลาน  อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมาและ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี  ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีการบุกรุกก่อสร้างรีสอร์ต และบ้านพักตากอากาศมากที่สุดในประเทศ โดยจะครบรอบ 1 ปีการเปิดยุทธการในวันที่ 26 ก.ค. นี้   ซึ่งในช่วงที่ผ่านมากรมอุทยานฯ ได้ดำเนินการรื้อถอนบ้านพัก รีสอร์ตที่บุกรุกอุทยานฯ ทับลาน ซึ่งศาลมีคำสั่งให้รื้อถอนไปแล้วจำนวนหลายราย  และมีการตั้งชุดเฉพาะกิจเพื่อปราบปรามการบุกรุกพื้นที่อุทยานฯ ทับลาน (ชุดเคลื่อนที่เร็ว) จับกุมดำเนินคดีรีสอร์ต บ้านพักตากอากาศที่บุกรุกพื้นที่ทับลานเพิ่มเติมอีกเป็นจำนวนมากนั้น

วันนี้ ( 24 ก.ค.) นายเทวินทร์ มีทรัพย์ หัวหน้าอุทยานฯ ทับลาน เปิดเผยว่า ผลการเปิดปฏิบัติการทวงคืนผืนป่าในพื้นที่อุทยานฯ ทับลานในช่วง 1 ปี ที่ผ่านมา  มีคดีรีสอร์ต บ้านพักตากอากาศ บุกรุกอุทยานฯ ทับลานเดิม ก่อนที่ตนจะเข้ามารับตำแหน่งที่ผ่านการพิจารณาของศาลยุติธรรมแล้วจำนวน  49 แห่ง  ซึ่งในจำนวนนี้ได้มีการรื้อถอนไปแล้ว  8 แห่ง  อยู่ระหว่างรอการรื้อถอนอีก 19 แห่ง  ส่วนที่เหลือเจ้าของและผู้ประกอบการได้ยื่นเรื่องต่อศาลปกครองและขณะนี้ กำลังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของศาลปกครอง นอกจากนั้นในส่วนที่นายดำรงค์ พิเดช อธิบดีกรมอุทยานฯ มีคำสั่งตั้งชุดเคลื่อนที่เร็วขึ้นมาจับกุมดำเนินคดีกับรีสอร์ตและบ้านพัก ที่บุกรุกพื้นที่ รวมทั้งเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ทับลานดำเนินการเข้าจับกุมเองนั้น ล่าสุดมีจำนวนทั้งสิ้น  417 คดี เนื้อที่เกือบ 5,000 ไร่  ซึ่งทั้งหมดได้ทยอยส่งสำนวนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ดำเนินการสืบสวน สอบสวน เพื่อเอาผิดกับคนที่บุกรุกพื้นที่อุทยานฯ ต่อไป และหากการดำเนินการเสร็จสิ้นอุทยานฯทับลาน จะเป็นพื้นที่แรกที่ไม่มีรีสอร์ต บ้านพักตากอากาศอยู่ในพื้นที่

หัวหน้าอุทยานฯ ทับลาน กล่าวอีกว่า  ทั้งนี้ที่ผ่านมาทางอุทยานฯ ทับลานได้เสนอให้มีการรื้อถอนรีสอร์ต บ้านพักตากอากาศที่ศาลยุติธรรมพิจารณาคดีเสร็จสิ้นแล้ว และไม่มีการร้องศาลปกครอง   โดยกรมอุทยานฯ พิจารณาให้มีการรื้อถอน 8-9 แห่ง คาดว่าจะดำเนินการภายในช่วงต้นเดือน ส.ค.นี้  อย่างไรก็ตามในการวิ่งเต้นเพื่อขอให้มีการชะลอการรื้อถอนนั้น เชื่อว่าก็คงมีอยู่ แต่ตอนนี้ไม่มีใครมาวิ่งเต้นกับตน เพราะตนปฏิเสธไปแล้วว่าเป็นอำนาจของอธิบดี และนายดำรงก็ให้นโยบายมาแล้วว่าต้องดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมายทั้งหมด ไม่มีละเว้น

แหล่งข่าวจากกรมอุทยานฯ เปิดเผย ว่า สำหรับรีสอร์ตและบ้านพักตากอากาศที่กรมอุทยานฯ เตรียมดำเนินการรื้อถอนในเร็วๆ นี้มีทั้งหมด 9 แห่ง อยู่ในพื้นที่ อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา 1 แห่ง และ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี 8 แห่ง เนื้อที่รวมกว่า 1,700 ไร่ โดยหนึ่งในนั้นเป็นรีสอร์ตขนาดใหญ่มูลค่าการลงทุนหลายร้อยล้านบาท ส่วนที่เหลือเป็นบ้านพักตากอากาศ และที่พักชั่วคราวของคนงาน ซึ่งมีเจ้าหน้าที่รัฐที่มีอิทธิพลในพื้นที่เป็นเจ้าของด้วย โดยกรมอุทยานฯ ได้ระดมเครื่องมือและอุปกรณ์หนักจากทั่วประเทศสำหรับการรื้อถอนแล้ว รวมทั้งเตรียมเรียกกำลังเจ้าหน้าที่จำนวน 4,000-5,000 นายไว้สำหรับปฏิบัติการครั้งนี้ เพราะคาดว่าผู้มีอิทธิพลจะระดมกลุ่มมวลชนออกมาต้านจำนวนมาก ซึ่งกรมอุทยานฯ เคยมีบทเรียนแล้วจากปฏิบัติการทวงคืนผืนป่าในพื้นที่อุทยานฯ เขาหลวง จ.นครศรีธรรมราช เมื่อช่วงต้นเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา

“ปู” ปัดข่าวมีโผจากฮ่องกงให้ปรับครม.ใหญ่

“ปู” ปัดข่าวมีโผปรับ ครม.ครั้งใหญ่มาจากฮ่องกง ยันถ้าปรับจะคิดเองทำเอง

วันนี้ ( 24 ก.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล  น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี ( ครม.) ถึงกระแสข่าวที่รัฐบาลเตรียมปรับครม.ครั้งใหญ่ เพียงว่า  “ข่าวมาจากไหน” เมื่อผู้สื่อข่าวบอกว่ามีกระแสข่าวมาจากฮ่องกง น.ส.ยิ่งลักษณ์ สวนกลับทันทีว่า “ยังไม่มีหรอกคะ”
เมื่อถามย้ำว่ายืนยันใช่หรือไม่ว่าถ้ามีจะการปรับ ครม.จะคิดเองทำเอง น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า “แน่นอนค่ะ”

"ปู"โยนสภาฯตัดสินถอน-ไม่ถอนร่างกม.ปรองดอง

นายกฯโยนสภาฯตัดสินถอน-ไม่ถอนร่างกม.ปรองดอง บอกตัวเองแค่เสียงเดียว ทำอะไรไม่ได้ แนะ พธม.เสนอความเห็นผ่านตัวแทนในสภาฯ ชุมนุมในกรอบประชาธิปไตย วอนอย่าเพิ่งคาดการณ์รัฐบาลอาการหนักหลังเปิดสภาฯ

วันนี้ ( 24 ก.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล  น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ประกาศเตรียมเคลื่อนไหวชุมนุมใหญ่หลังเปิดสมัยประชุมสภาฯ หากรัฐบาลไม่ถอนร่าง พ.ร.บ.ปรองดองแห่งชาติออก ว่า การตัดสินใจเป็นเรื่องของสภาฯที่ต้องไปตกลงกัน ส่วนการชุมชนของ พธม.นั้น คงต้องขอความร่วมมือให้ชุมนุมในขอบเขตกฎหมายและให้เป็นไปตามระบอบ ประชาธิปไตย ซึ่งมีอีกแนวทางที่สามารถทำได้คือเสนอผ่านตัวแทนที่อยู่ในสภาฯ เพื่อให้เข้าไปแสดงความคิดเห็นกัน ซึ่งเป็นกลไกที่ถูกต้อง ส่วนที่กลุ่ม พธม.ได้ยื่นหนังสือต่อรัฐบาลด้วย เพราะมองว่าเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่มีร่างกฎหมายของรัฐบาลเสนอเข้าไป รัฐบาลเพียงผลักดันเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ


เมื่อถามว่าจุดยืนของรัฐบาลคิดว่าควรจะถอนร่าง พ.ร.บ.ปรองดองออกหรือให้คงไว้เช่นนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ทั้งหมดต้องขึ้นอยู่กับสภาฯ เราคงไม่ไปล่วงเกิน แต่เราอยากเห็นจุดยืนของการ พูดคุยกัน และใช้กลไกที่เหมาะสม เป็นไปตามระบอบประชาธิปไตย ซึ่งวันนี้ก็เห็นแล้วว่ากลไกที่เป็นที่รวมของทุกส่วนคือสภาฯ จึงอยากให้สภาฯ ได้เปิดพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน เพื่อให้หาทางออกให้ประเทศเดินไปข้างหน้าได้ ทุกฝ่ายสามารถเสนอผ่านตัวแทนหรือกลไกของสภาฯเพื่อจะได้หารือและชี้แจงเหตุผล ซึ่งกันและกัน ถือเป็นสิ่งที่ตนอยากเห็น

เมื่อถามว่าเกรงหรือไม่ว่าจะเกิดความรุนแรงขึ้นมาอีก นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คงต้องขอความร่วมมือกัน ขณะเดียวกันก็ต้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลรักษาความปลอดภัย ทั้งนี้ต้องขอดูเหตุการณ์ก่อน แต่หวังว่าเราจะค่อย ๆ คุยกัน และลดความขัดแย้งซึ่งกันและกัน เพราะวันนี้เราไม่อยากให้ประเทศเจอกับปัญหาอุปสรรคตรงนี้ เนื่องจากเรามีปัญหาต่างๆ ที่ต้องแก้ไขจำนวนมาก รวมถึงปัญหาเศรษฐกิจด้วย

เมื่อถามว่าในฐานะรัฐบาลหากเห็นว่าการคงร่างกฎหมายไว้ในสภาฯแล้วจะทำให้ เกิดความวุ่นวายขึ้นได้ จะสนับสนุนให้ถอนร่างออกไปก่อนหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ต้องให้เป็นมติของเสียงส่วนใหญ่ ตนมีเพียงหนึ่งเสียง ซึ่งตอนนี้ได้ผ่านขั้นตอนของรัฐบาลไปแล้ว แต่อะไรที่ทำให้บ้านเมืองสงบรัฐบาลยินดีสนับสนุน

นายกรัฐมนตรี ยังได้กล่าวถึงข้อเสนอของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นรายมาตรา ว่า ทุกอย่างยืนยันว่าเป็นเรื่องของสภาฯ จะแก้ไขเป็นรายมาตราหรือไม่ ก็ต้องไปคุยกันในสภาฯเอง เพราะมติต่าง ๆ ต้องมาจากเสียงโหวตของ ส.ส. รวมทั้งกรณีที่จะทำอย่างไรกับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ค้างอยู่ในวาระ 3 ด้วย ขณะนี้หลายฝ่ายถามว่าจุดยืนของรัฐบาลจะเป็นอย่างไร ก็ต้องรอฟัง กลไกทั้งหมดต้องไปสรุปในสภาฯ ขณะเดียวกันก็ต้องรอฟังผลการวินิจฉัยกลางของศาลรัฐธรรมนูญด้วย จากนั้นก็ต้องให้นักกฎหมาย และผู้ที่เกี่ยวข้องตีความให้ชัดเจนก่อน รัฐบาลและพรรคเพื่อไทยถึงจะสามารถตัดสินใจและประกาศจุดยืนได้ ซึ่งต้องขอเวลาอีกนิดหนึ่ง


เมื่อถามว่าตอนนี้ถือว่าก้าวสู่ปีที่ 2 ของรัฐบาลแล้ว และกำลังจะมีการเปิดสภาฯ ซึ่งจะมีทั้งการอภิปรายไม่ไว้วางใจ การชุมนุมของกลุ่มต่าง ๆ หนักใจหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า “เราอย่าเพิ่งมองไปว่าอาการหนักขนาดนั้น ขอให้รอผลวินิจฉัยกลาง และรอฟังจุดยืนก่อน วันนี้ยังไม่ถึงกำหนดที่จะเปิดสภาฯ หากเราประมาณการณ์ไปก่อนล่วงหน้า ซึ่งบางครั้งเหตุการณ์อาจจะไม่เกิดขึ้นก็จะทำให้ประชาชนกังวลใจ ขอให้ค่อย ๆ ดูลำดับเหตุการณ์ แล้วค่อย ๆ พูดจากันดีกว่า”

ว่าที่ร.ต.ซิ่งเก๋งเสยท้าย6ล้อดับ

หนุ่มใหญ่ว่าที่ร้อยตรี ขับเก๋งหรูพุ่งเสยท้ายรถบรรทุก 6 ล้อ ของเจ้าหน้าที่ซ่อมบำรุงไฟส่องสว่างใต้ทางยกระดับดอนเมืองโทลล์เวย์ เสียชีวิตคาที่

เมื่อเวลา 02.00 น. วันที่ 24 ก.ค. พ.ต.ท.ฉัตรชัย เอี่ยมอ่อง พนักงานสอบสวน (สบ 3) สน.วิภาวดี รับแจ้งอุบัติเหตุ รถยนต์ชนท้ายรถบรรทุก 6 ล้อ มีผู้เสียชีวิต บริเวณหน้าสนามบินดอนเมือง ถนนวิภาวดีรังสิต ฝั่งขาเข้า แขวงสนามบิน เขตดอนเมือง หลังรับแจ้ง จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต๊กตึ๊ง
ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณช่องทางขวาสุด พบรถเก๋ง ยี่ห้อเบนซ์ สีดำ ทะเบียน ษข 8193 กรุงเทพมหานคร สภาพพังยับเยิน พุ่งชนท้ายรถบรรทุก 6 ล้อ ยี่ห้ออีซูซุ สีขาว ทะเบียน 82-2166 กาญจนบุรี ภายในรถเก๋งพบผู้เสียชีวิตติดอยู่ภายใน ทราบชื่อต่อมา คือ ว่าที่ ร.ต.ขวัญชัย บุญประสิทธิ์ อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 97/14 ซอยอารีย์สัมพันธ์ 1 แขวงสามเสนใน เขตพญาไท จากการตรวจสอบ บริเวณฝากระโปรงท้ายรถพบกระเป๋าสะพาย ภายในมีอาวุธปืนออโตเมติก ขนาด.22 จำนวน 1 กระบอก และเงินสดจำนวน 30,000 บาท นอกจากนี้ยังพบถุงพลาสติก ภายในมีธนบัตรม้วนรวมกันอยู่เป็นจำนวนเงินหลายหมื่นบาท
จากการสอบสวน นายทวนทน เกิดโพทาย อายุ 28 ปี เจ้าหน้าที่เปลี่ยนไฟทางให้การว่า ก่อนเกิดเหตุกำลังซ่อมบำรุงระบบไฟส่องสว่างใต้ทางยกระดับดอนเมืองโทลล์เวย์ โดยใช้รถบรรทุก 6 ล้อ ติดตั้งกระเช้า 2 คัน และรถกระบะอีก 1 คัน จอดอยู่ในที่เกิดเหตุ ซึ่งมีการเปิดไฟสัญญาณเตือนอยู่อย่างชัดเจน ระหว่างนั้นเห็นรถเบนซ์คันคู่กรณีขับมาด้วยความเร็ว ก่อนพุ่งชนท้ายรถบรรทุก 6 ล้อ ที่จอดอยู่อย่างแรง ทำให้มีผู้เสียชีวิตดังกล่าว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จะได้สอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงเพื่อดำเนินการตามกฎหมาย ต่อไป .

“ก่อแก้ว”เชียร์ "ตู่"นั่งเก้าอี้มท.2

“ก่อแก้ว”เชียร์นายกฯปรับ ครม. อ้างรัฐมนตรีบางคนไม่กระตือรือร้น ป้องปรับ “ยงยุทธ” พ้น มท.1 พร้อมเปิดทางทวงโควตารมช.มหาดไทยให้ “จตุพร” ช่วยงาน “ยงยุทธ”

วันนี้ (24 ก.ค.) ที่รัฐสภา นายก่อแก้ว พิกุลทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี ( ครม.) ว่า เห็นด้วยว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ควรปรับครม. เพราะนายกฯทำงานหนัก แต่มีรัฐมนตรีบางคนไม่แอคทีฟ ทำงานนายกฯต้องเหนื่อย ไปแบกรับภาระเองทุกเรื่อง นายกฯคงทราบดีว่า ใครบ้างที่เป็นภาระ ควรปรับออก พรรคเพื่อไทยและรัฐบาลนี้มีประชาชนเป็นผนังให้พิง หากรัฐมนตรีคนใดไม่ตอบสนองความต้องการประชาชนก็ต้องปรับออก แต่สวนตัวเห็นว่า ไม่สมควรปรับนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ ออกจากตำแหน่ง รมว.มหาดไทย เพราะเป็นคนที่รู้เรื่องกระทรวงมหาดไทยดีที่สุด รมว.มหาดไทย ไม่มีใครเหมาะสมกับนายยงยุทธอีกแล้ว ถ้าเห็นว่า งานนายยงยุทธมากเกินไป ทำงานไม่ทัน ก็ควรหาคนมาเป็น รมช.มหาดไทยเพิ่มเติม เช่น นายภูมิธรรม เวชชยชัย รักษาการผอ.พรรคเพื่อไทย นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำคนเสื้อแดง จะดีกว่าการปรับนายยงยุทธออก เพราะในอดีตก็เคยมี รมช.มหาดไทย 4 คน แต่ปัจจุบันมีแค่ 2 คนเท่านั้น

โฆษกศาลรธน.ระบุรัฐสภาไม่ทำประชามติถือเป็นอำนาจ

โฆษกศาลรธน. ระบุ รัฐสภาไม่ทำประชามติถือเป็นอำนาจ แต่ต้องรับผิดชอบผลที่เกิดขึ้น เผยเตรียมแถลงข่าวพรุ่งนี้ หลังตุลาการพิจารณาคำวินิจฉัยกลางเสร็จ

วันนี้ ( 24 ก.ค.) ที่สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ นายพิมล ธรรมพิทักษ์พงษ์ หัวหน้าโฆษกศาลรัฐธรรมนูญ กล่าวถึงกรณีคำวินิจฉัยกลางที่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญจะลงนามรับรองในการ ประชุมวันที่ 25 ก.ค.นี้ ในประเด็นที่สองที่ศาลรัฐธรรมนูญแนะนำว่าควรจะทำประชามติตามรัฐธรรมนูญ หากต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับว่า จากการอ่านคำวินิจฉัยขององค์คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเมื่อวันที่ 13 ก.ค.ที่ผ่านมานั้น ศาลรัฐธรรมนูญได้แนะนำว่า ควรที่จะทำประชามติ ส่วนรัฐสภาจะดำเนินการตามคำแนะนำของศาลหรือไม่นั้น ก็ถือเป็นอำนาจของรัฐสภาที่จะตัดสินใจ แต่หากไม่ดำเนินการตามคำแนะนำ และส่งผลให้มีผลกระทบตามมา ทางรัฐสภาก็จะต้องรับผิดชอบต่อไป ทั้งนี้หากรัฐสภาไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำของศาล และเดินหน้าลงมติในวาระ 3  จะส่งผลกระทบให้บุคคลที่ทราบการกระทำ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา68 มายื่นร้องต่อศาลอีกครั้งหรือไม่นั้น ตนคงตอบไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องอนาคตที่ไม่สามารถไปคาดการณ์ได้ อย่างไรก็ตามภายหลังการประชุมตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเสร็จสิ้นแล้ว คาดว่าทีมโฆษกศาลรัฐธรรมนูญน่าจะมีการแถลงข่าว เพื่อสร้างความชัดเจนอีกครั้งด้วย

แม่นางเอกดัง แต้ว-ณฐพร โดนล้วงกระเป๋า

แม่นางเอกดัง แต้ว-ณฐพร โดนโจรแสบล้วงกระเป๋าสตางค์ในงานพระราชทานปริญญาบัตรที่จุฬาฯ สูญเงิน 2 หมื่นพร้อมทรัพย์สินอีกหลายรายการ

เมื่อวันที่ 21 ก.ค. มีรายงานข่าวว่า ตามเว็บไซต์ต่างๆมีการนำเสนอและวิพากษ์วิจารณ์กรณีนางรวงทอง เตมีรักษ์ มารดา นางเอกสาว แต้ว-ณฐพร เตมีรักษ์ นางเอกช่อง 3 โดนคนร้ายล้วงกระเป๋าภายในงานพระราชทานปริญญาบัตรของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เมื่อวันที่ 20 ก.ค.ที่ผ่านมา สูญเสียเงินไปแสนกว่าบาท  ผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์สอบถามผู้จัดการส่วนตัว น้องแต้ว-ณฐพร ทราบว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นจริง โดยเกิดช่วงบ่ายบริเวณตึกคณะอักษรศาสตร์ หลังจากที่บัณฑิตใหม่ออกจากหอประชุมใหญ่แล้ว ขณะนั้นมีประชาชนจำนวนมาก โดยตอนเกิดเหตุมารดาของแต้วรู้สึกเหมือนมีคนมากระแทกจากด้านหลัง จากนั้นจึงหันไปดูปรากฏว่าซิบกระเป๋าสะพายของตัวเองถูกเปิดออก
หลังจากนั้นคุณแม่ของนางเอกสาวได้ทำการเปิดกระเป๋าถือเพื่อสำรวจทรัพย์สิน พบว่ากระเป๋าสตางค์ได้หายไป โดยในกระเป๋ามีเงินสด 2 หมื่นบาท บัตรเครดิต บัตรประชาชน บัตรเอทีเอ็ม เป็นต้น ได้หายไปด้วย อย่างไรก็ตามมารดาของนางเอกสาวได้รีบโทรศัพท์อายัดบัตรที่เกี่ยวกับธุรกรรม ทางการเงินทั้งหมดไว้เรียบร้อยแล้ว โดยที่ไม่ได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีแต่อย่างใด เพราะคิดว่าไม่น่าจะตามจับตัวคนร้ายได้ เพราะหลังไปตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดของทางมหาวิทยาลัยฯแล้ว ก็ไม่ปรากฏภาพแต่อย่างใด และไม่สามารถระบุได้ว่าคนร้ายเป็นผู้หญิงหรือ เจ้าตัวก็เลยทำใจไม่ติดใจเอาความ
สำหรับ ประวัติ น้องแต้ว หรือ น.ส.ณฐพร เตมีรักษ์ สำเร็จการศึกษาจากคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตร ไปเมื่อวันที่ 20 ก.ค. ด้วยบัณฑิตเกียรตินิยมอันดับ 2 โดยผลงานล่าสุดของนางเอกสาวที่เพิ่งลาจอไปคือละคร “ภูผาแพรไหม” ที่แสดงคู่กับพระเอกหนุ่ม ปอ-ทฤษฎี สหวงษ์

แม่ใจร้ายทิ้งลูกน้อยซุกกองขยะ

แม่ใจร้ายทิ้งลูกน้อยซุกกองขยะ

เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 22 ก.ค. ร.ต.อ.สมเจตน์ พลเหลา พงส.(สบ1) สน.หัวหมาก รับแจ้งเหตุเด็กทารกถูกทิ้งไว้หลังโรงเรียนวัดเทพลีลา ซอยรามคำแหง 43 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ จึงไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุเป็นบริเวณจุดให้ทิ้งขยะของชุมชนวัดเทพลีลา ห่างจากท่าเรือวัดเทพลีลาเพียง 30 เมตร เจ้าหน้าที่พบเด็กทารกเพศหญิง อายุไม่เกิน 1 สัปดาห์ถูกห่ออยู่ในผ้าเช็ดตัวสีชมพูร้องไห้จ้าเสียงดังและมีตุ่มแดงขึ้น เต็มหน้า เนื่องจากโดนแดดเผาและโดนมดกัด นอกจากนี้ พบว่าสายสะดือยังไม่ได้ถูกตัด ทางมูลนิธิร่วมกตัญญู จึงตัดสายสะดือออกและนำตัวมาที่สน.หัวหมาก
สอบสวนชาวบ้านให้การว่า ก่อนเกิดเหตุประมาณ 13.00 น. มีคนเห็นคู่รักชายหญิงวัยรุ่นอายุไม่ถึง 20 ปีขับรถจยย.ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นมีโอ สีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนมาที่บริเวณดังกล่าว ก่อนจะเห็นผู้หญิงวางของลงกองขยะ ก็ไม่คิดอะไรเพราะคิดว่าเป็นการเอาขยะไปทิ้ง แต่เมื่อทิ้งช่วงสักพักกลับได้ยินเสียงเหมือนเด็กร้องไห้หิวนมออกมาจากกอง ขยะ จึงไปคุ้ยดู พบเด็กถูกทิ้ง จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่และซื้อขวดนมกับขวดน้ำมาให้เด็กได้ดื่มกินทันที
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่กำลังติดต่อกับมูลนิธิบ้านเด็กอ่อน พญาไทมารับตัว ส่วนพ่อแม่ใจยักษ์ที่ทิ้งลูก คาดว่าเป็นเด็กวัยรุ่นที่ประสบปัญหาตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควร ทำให้เมื่อเด็กเกิดมาไม่มีปัญญาเลี้ยงดู จึงต้องนำไปทิ้ง ซึ่งเจ้าหน้าที่จะตรวจสอบและสอบสวนชาวบ้านบริเวณดังกล่าว หากจับตัวได้จะต้องถูกต้งข้อหาทอดทิ้งเด็กอายุไม่เกิน 9 ปีดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ดูหนัง Alex Rider Stormbreaker ยอดจารชนดับแผนล้างโลก HD

ยอดจารชนดับแผนล้างโลก l เนื้อเรื่องย่อ 
อเล็กซ์ ไรเดอร์ (อเล็กซ์ เพ็ตติเฟอร์) คือวัยรุ่นธรรมดาๆ ที่ใช้ชีวิตอยู่กับลุงของเขา ซึ่งเป็นผู้จัดการธนาคารที่ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด...หรือดูเหมือนจะไม่ฝักใฝ่ จนกระทั่งลุง เอียน ไรเดอร์ (ยูเวน แม็คเกรเกอร์) เสียชีวิตลงอย่างลึกลับ อเล็กซ์พบว่าอันที่จริงแล้วลุงของเขาคือสายลับ และถูกฆาตกรรมโดย ยัสเซน เกรโกโรวิช (เดเมี่ยน ลูอิส) หนึ่งในมือสังหารที่อันตรายที่สุดในโลก หลังจาก มิสเตอร์บลันต์ (บิลล์ ไนฮีย์) และ มิสซิสโจนส์ (โซฟี โอโกเนโด) จากองค์กรสายลับ เอ็มไอซิกซ์ รับเขาเข้าร่วมทีม อเล็กซ์ที่ยังคงเป็นเด็กนักเรียนอยู่นั้นพบว่าลุงของเขาได้เตรียมเขาให้พร้อมสำหรับอาชีพในแวดวงจารกรรมด้วยการสนับสนุนให้เขาทำงานอดิเรกต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นความเชี่ยวชาญทางด้านภาษา การดำน้ำ การปีนเขา การยิงปืน และศิลปะการต่อสู้ อเล็กซ์มีคุณสมบัติเหมาะสมที่จะเป็นซูเปอร์สายลับวัยรุ่นที่สมบูรณ์แบบที่สุด เมื่อผสมรวมกับเครื่องไม้เครื่องมือพิเศษของเขาเอง อเล็กซ์จึงพร้อมแล้วที่จะรับภารกิจแรก

มหาเศรษฐีพันล้าน ดาร์เรียส เซยล์ (มิคกี้ รูร์ก) เสนอที่จะบริจาคคอมพิวเตอร์สตอร์มเบรกเกอร์ให้กับทุกๆ โรงเรียนในอังกฤษฟรีๆ ว่าแต่จะมีอะไรอยู่เบื้องหลังการกระทำที่แสนใจดีครั้งนี้ของเซยล์หรือไม่ อเล็กซ์ถูกส่งตัวมาสืบสวนเรื่องนี้ เขาปลอมตัวเป็นผู้ชนะในการแข่งขันของหนังสือแม็กกาซีนคอมพิวเตอร์ และแอบเข้าไปในที่พักของเซยล์ที่มีการดูแลป้องกันอย่างแน่นหนา เขาได้พบกับลูกน้องที่น่าขนลุกของเซยล์ คือ มิสเตอร์กริน (แอนดี้ เซอร์กิส) และ นาเดีย โวล (มิสซี่ ไพล์) หลังจากแอบเข้าไปทางหน้าต่างห้องนอนของเซยล์กลางดึก อเล็กซ์ได้เห็นการส่งมอบคอนเทนเนอร์ลึกลับ เขาอยู่ระหว่างการติดตามร่องรอยของสิ่งที่ใหญ่มาก!

STEELSERIES ประกาศอุปกรณ์เกมมิ่งรุ่น Counter-Striker: Global Offensive และ Dota2 คุณภาพระดับ Premium

STEELSERIES ประกาศอุปกรณ์เกมมิ่งรุ่น 
Counter-Striker: Global Offensive และ Dota2 คุณภาพระดับ Premium 
 

SteelSeries ผู้นำทางด้านอุปกรณ์การเล่นเกมหรือ Gaming Gear ระดับโลก ร่วมมือและจัดทำอุปกรณ์เกมมิ่งเกียร์รุ่น Counter-Strike® : Global Offensive และ Dota™ 2 เกมของค่าย Valve โดยมี SteelSeries Siberia V2 Headset, SteelSeries KANA Gaming Mouse และ SteelSeries QcK Mousepad ออกมาเป็นลวดลายของเกม CS:GO นั่นเอง

นอกจากนั้น SteelSeries ยังทำเวอร์ชั่นของเกม DotA 2 เกมที่โด่งดังมากๆ ในระดับสากล ออกมาเป็น SteelSeries DotA 2 Limited Edition Mouse Bundle ซึ่งเป็นเม้าส์ KANA ที่มีผิวดำด้านสวยงามด้วย Logo ของ DotA 2 สีแดงฉานอยู่กลางตัวเม้าส์เป็นชุดพร้อมกับแผ่นรองเม้าส์ QcK Mini DotA 2 Edition โดยตัวเม้าส์นั้นมีถึง 6 ปุ่มด้วยกัน และได้มีการออกแบบร่วมกับทีมเกมเมอร์ระดับอาชีพที่ได้คว้าแชมป์ DotA 2 The International มาเมื่อปี 2011 อย่างทีม Natus Vincere และได้ผ่านการทดสอบโดยผู้เล่นมาแล้ว และในชุดนี้ยังมี Item พิเศษในเกม DotA 2 แถมมาให้ด้วย

Kim Rom , CMO SteelSeries ได้กล่าวไว้ว่า “เราทำงานร่วมกับผู้เล่นระดับอาชีพที่เป็นอันดับ 1 ของเกม Counter-Strike และDotA 2 ได้สรรค์สร้างสิ่งที่ดีออกมา เพื่อให้ผู้เล่นได้เพิ่มประสบการณ์และประสิทธิภาพในการเล่นให้มากขึ้น เพื่อความสมบูรณ์แบบและความแม่นยำในการใช้งานได้อย่างถูกต้อง และเราจะปล่อยสินค้าลงสู่ตลาดพร้อมกับการวางจำหน่ายเกม”

SteelSeries Siberia v2 Counter-Strike®: Global Offensive Headset

            เสียงที่ดังฟังชัดของเกม Counter-Strikezั้นสร้างความแตกต่างระหว่างชัยชนะและความพ่ายแพ้ได้เป็นอย่างดีสำหรับตัวผู้เล่นและทีมเอง หูฟัง SteelSeries Siberia v2 Counter-Strike: Global Offensive ตัวนี้สามารถแยกแยะทิศทางของเสียง และองค์ประกอบต่างๆ ของเสียงภายในเกม CS:GO ได้เป็นอย่างดี การออกแบบได้ทำออกมาให้มีน้ำหนักเบา ใส่สบาย และมีลวดลายให้สมกับความเป็นเกม CS:GO อย่างที่สุด มีขุมพลังขับเคลื่อนเสียง 50มม. ให้เสียงที่ทรงพลัง มีไมโครโฟนที่สามารถดึงเข้า-ออกเพื่อเก็บได้ เสียงไมโครโฟนที่มีความกระจ่างและดังชัดเจน
ลักษณะพิเศษของหูฟัง SteelSeries Siberia v2 Counter-Strike: Global Offensive
- มีตัวควบคุมเสียงและเปิดปิดไมโครโฟน ง่ายต่อการใช้งาน
- สายหูฟังมีความยาว 3 เมตร และเป็นผิวยางสีดำ พร้อมแจ๊คขนาด 3.5มม. (ขนาดมาตรฐาน)

SteelSeries Kana Counter-Strike®: Global Offensive Mouse 

 

            เม้าส์ SteelSeries KANA Counter-Strike: Global Offensive นั้นออกแบบมาเพื่อรองรับทั้งผู้ที่ถนัดมือซ้ายและมือขวา มีลักษณะพิเศษคือมีปุ่มให้ใช้งานถึง 6 ปุ่มบนตัวเม้าส์ พร้อมขนาดของปุ่มด้านข้างตัวเม้าส์ทั้งสองฝั่งมีขนาดใหญ่สามารถกดใช้งานได้ง่าย มีระบบเซ็นเซอร์เป็นแบบ Optical สามารถปรับความเร็วได้ถึง 1,600 – 3,200 DCPI พร้อมการใช้งานร่วมกับSteelSeries Software Engine และให้ผู้ใช้งานสามารถสร้าง Profile ได้มากมายตามความต้องการ และมีลวดลายของเกม CS:GO บนตัวเม้าส์ที่สวยงามเหมาะกับการเล่นเกม CS:GO เป็นที่สุด และตัว Scroll Mouse สามารถปรับแสงได้ถึง 4 ระดับ พร้อมปุ่มปรับ CPI ที่ปรับได้ 2 ระดับตามที่เราตั้งไว้ 
ลักษณะพิเศษของตัวเม้าส์ SteelSeries Kana Counter-Strike: Global Offensive Mouse
- ใช้ Glide หรือ Feet ที่มีคุณภาพสูง ทำให้ใช้งานได้ลื่นและนุ่มนวล 
- มีความยาวของสายถึง 2 เมตร เป็นสายถักไนลอน

SteelSeries Counter-Strike®: Global Offensive QcK 
  

            แผ่นรองเม้าส์ที่มีความหนึบ ป้องกันการลื่นไหลระหว่างเล่น มีหน้าสัมผัสที่ลื่นไหล สามารถลากเม้าส์ใช้งานบนแผ่นรองได้อย่างนุ่มนวล พร้อมกับ Logo ของเกม Counter-Strike: Global Offensive ที่สวยงามอลังการอยู่เต็มแผ่นรองเม้าส์

SteelSeries Kana Dota™ 2 Edition Bundle

            เม้าส์เล่นเกม SteelSeries KANA ลวดลาย DotA 2 สุดยอดเกมที่มีชื่อเสียงระดับสากล ณ ปัจจุบันนี้ ได้ออกแบบมาอย่างลงตัว โดยมีปุ่มกดถึง 6 ปุ่มด้วยกัน มีปุ่มด้านข้างที่กดใช้งานได้สะดวกรวดเร็วสำหรับเกม DotA 2 ใช้งานร่วมกับ SteelSeries Software Engine ตัวเม้าส์ใช้ระบบเซ็นเซอร์เป็นแบบ Optical สามารถใช้งานความเร็วได้ถึง 1,600 – 3,200 DCPI มีพื้นผิวแบบดำด้านน่าสัมผัส และมี Glide ขนาด XL ระดับคุณภาพใช้งานได้ลื่นไม่มีสะดุด พร้อมสายถักไนลอนยาว 2 เมตร
- SteelSeries QcK Mini มาพร้อมหน้าสัมผัสที่ดี มีคุณภาพและมี Logo ของเกม DotA 2
- แถมเกม DotA 2 ตัวเต็ม พร้อมกับ item พิเศษภายในเกม Kantusa the Script Sword

สำหรับเม้าส์  SteelSeries Counter-Strike: Global  Offensive และ DotA 2  นั้นจะวางจำหน่ายพร้อมกับการเปิดตัวของเกมภายในปี 2012 นี้ ตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.SteelSeries.comและติดตามความเคลื่อนไหวของ SteelSeries Thailand ได้ที่ www.facebook.com/SteelSeriesThai หรือที่ www.dcom.co.th

……………………………………………………………………………………………………………............……………….....
SteelSeries ผู้ผลิตอุปกรณ์ต่อพ่วง สำหรับเล่นเกมชั้นนำ อาทิ ชุดหูฟัง, คีย์บอร์ด, เม้าส์, ได้รับการยอมรับจากนักเล่นเกมมืออาชีพทั่วโลก ก่อตั้งขึ้นในปี 2001 และสร้างสรรค์นวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง โดยผลิตภัณฑ์ SteelSeries ทั้งหมด ถูกสร้างสรรค์และพัฒนาด้วยความร่วมมือของนักเล่นเกมส์ระดับมืออาชีพที่เยี่ยมที่สุดทั่วโลก  เพื่อให้คุณมั่นใจกับประสิทธิภาพและความทนทานของผลิตภัณฑ์  SteelSeries ได้สนับสนุนส่งเสริมและพัฒนาอย่างต่อเนื่องของการเล่นเกมในการแข่งขันกีฬาและอิเล็กทรอนิกส์ที่ผ่าน ตลอดจนการสนับสนุนทีมงานมืออาชีพและการสนับสนุนจากชุมชนทั่วทุกมุมโลก ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมที่ www.SteelSeries.com


บริษัท ดีคอมกรุ๊ป (DCOM Group)  ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2530 โดย คุณวิกร วิวิธคุณาภรณ์ และคุณจันทร์ทิพย์ หอมสุคนธ์ 
ซึ่งเป็นบริษัทไอทีของประเทศไทย ในฐานะผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายสินค้าไอที (IT Distributor) ที่มีคุณภาพสูง เน้นการรับประกันสินค้าซึ่งเป็นหัวใจในการทำการตลาด รวมทั้งการสร้างปรากฏการณ์ใหม่ด้านบริการไอทีรายแรกของประเทศไทย ด้วยความมุ่งมั่นด้านบริการที่เหนือกว่า ทำให้ดีคอมกรุ๊ป ประสบความสำเร็จอย่างสูงสุดจากยอดจำหน่ายที่เติบโตอย่างรวดเร็วจากหลักร้อยล้านบาท ในช่วงแรกของการประกอบธุรกิจ กระทั่งมียอดขายกว่า 6,000 ล้านบาทในปัจจุบัน จากการจัดจำหน่ายสินค้ากว่า 40 ประเภทผ่านตัวแทนจำหน่าย และพันธมิตร 4,000 ราย ทั่วประเทศ ณ วันนี้      ดีคอมกรุ๊ป ยังคงมุ่งมั่นพัฒนาคุณภาพ และการบริการที่ดีที่สุด เพื่อสร้างความเป็นธรรมทางธุรกิจต่อทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เพื่อสิ่งที่ดีที่สุดมอบแด่ลูกค้าคนสำคัญของเราตลอดไป ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมที่ www.dconm.co.th

ดีเอสไอจับเหล้าปลอมเครื่องหมายการค้า-หนีภาษีย่านหาดใหญ่

ดีเอสไอจับเหล้าปลอมเครื่องหมายการค้า-หนีภาษีแหล่งใหญ่ย่านหาดใหญ่ เสียหายกว่า 20 ล้านบาท เตือนคอเหล้าเสี่ยงซื้อเหล้าปลอมอันตราย

วันนี้ (23 ก.ค.) ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) นายธาริต  เพ็งดิษฐ์  อธิบดีดีเอสไอ  พร้อมด้วยพ.ต.ท.ชินโชติ  แดงสุริศรี  ผู้บัญชาการสำนักคดีทรัพย์สินทางปัญญา แถลงข่าวจับกุมขบวนการจำหน่าย และเก็บสินค้าปลอมเครื่องหมายการค้าและหลีกเลี่ยงภาษีประเภทสุรา และบุหรี่ แหล่งใหญ่ในเขตพื้นที่ภาคใต้  โดยนายธาริต กล่าวว่า  การจับกลุ่มครั้งนี้ดีเอสไอได้สืบสวนสะกดรอยจนพบผู้ต้องสงสัยในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา มีพฤติการณ์ลักลอบจำหน่ายและเก็บสินค้าผิดกฎหมายได้แก่ สุราต่างประเทศ และบุหรี่ต่างประเทศ ที่หลีกเลี่ยงภาษี และละเมิดเครื่องหมายการค้า  รวมถึงเสื้อผ้าปลอมเครื่องหมายการค้าจำนวนมาก จึงได้วางแผนการตรวจค้นจับกุมรวม 5 จุด  ประกอบด้วย  จุดที่ 1. ร้านซีวา สโตร์ เลขที่ 58 ถ.ตันรัตกร อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา 2. ร้านแบล็ค สโตร์ เลขที่ 56 ถ.ตันรัตกร อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา  3. ร้านน้าวร  เลขที่ 120/170 ถ.จันทร์นิเวศ 3 อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา   4. ร้านมาแตล เลขที่ 4 ถ.ชีอุทิศ  อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา   ผลการตรวจค้นพบ สุราต่างประเทศ หลีกเลี่ยงภาษีหลายยี่ห้อ เช่น  แบล็ค  เลเบิล , ชีวาส รีเกิล  บลู เลเบิล  แอบโซรูท และไวท์  ได้ของกลางสุราต่างประเทศเลี่ยงภาษี 2,219 ขวด สุราต่างประเทศปลอมเครื่องหมายการค้า 37 ขวด และบุหรี่ต่างประเทศ หลายยี่ห้อ รวมทั้งสิ้น 269,600 มวน  ส่วนจุดที่ 5 ได้เข้าตรวจค้นร้านไอคิว สปอร์ต เลขที่ 236 ถ.เพชรเกษม อ.หาดใหญ่ จ.สงขลาผลการตรวจค้นพบ เสื้อกีฬา, ถุงเท้า  และผ้าพัดคอ ละเมิดเครื่องหมายการค้ายี่ห้อต่างๆ รวมทั้งสิ้น 1,810 ตัว  รวมมูลค่าความเสียหายกลางกว่า 20 ล้านบาท
“สุราต่างประเทศปลอมคือยี่ห้อ แบล็ค เลเบิล  และเรด เลเบิล  ส่วนสุราต่างประเทศหลีกเลี่ยงภาษีจะเป็นสุราหลายกลุ่มมีทั้งไวน์ วอดก้า  วิสกี้  อาทิ  กรีน เลเบิล  ดับเบิ้ลแบล็ค  โกล เลเบิล และสุราราคาแพง  เช่น บลู เลเบิล และชีวาสซาลูท ซึ่งสุราต่างประเทศที่เสียภาษีจะมีราคาเฉลี่ยขวดละ 10,000-12,000 บาท แต่สุราต่างประเทศหลีกเลี่ยงภาษีจะมีราคาขวดละ 5,000 -6,000 บาทเท่านั้น”  นายธาริต  กล่าว
นายธาริต  กล่าวว่า  ในการตรวจค้นสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 5 ราย ประกอบด้วย1. นางสดใส  อินทุประภา   2. นายสุรสิทธิ์   ศิริสัจจะกุล  3. นางสุพรรณี  แซ่เล่  4. นางวิชดา  จรูญศิริเสถียร และ 5. นางคะนึงนิตย์  สายเลขา  ทั้งหมดเป็นเจ้าของร้าน  เบื้องต้นได้แจ้งข้อกล่าวหา มีไว้เพื่อจำหน่ายซึ่งสินค้าที่มีเครื่องหมายการค้าปลอมเครื่องหมายการค้า ของบุคคลอื่นที่ได้จดทะเบียนไว้แล้วในราชอาณาจักรฯ, มีไว้ในครอบครองซึ่งสุราที่ต้องปิดแสตมป์สุราแต่มิได้ปิดแสตมป์สุรา หรือปิดแสตมป์สุราไม่ครบถ้วน ตาม พ.ร.บ.สุรา พ.ศ. 2493 และมีไว้เพื่อขายซึ่งสินค้าโดยรู้ว่าเป็นสินค้ามิได้เสียภาษี หรือเสียภาษีไม่ครบถ้วน ตาม พ.ร.บ.ยาสูบ พ.ศ. 2509 ผลการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา จึงได้นำตัวไปดำเนินคดีต่อไป.